กรุงไทยพัฒนา “เป๋าตังเปย์” ให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
ธนาคารกรุงไทยพัฒนา “เป๋าตังเปย์” ให้เป็นซุปเปอร์วอลเล็ตตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ คาดปี 2566 ยอดผู้ใช้งานทะลุ 5 ล้านราย
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 65 นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รูปแบบการชำระเงินของไทยเปลี่ยนแปลงไปสู่การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital Payment อย่างชัดเจน จากการระบาดของโควิด เป็นตัวเร่งให้ประชาชนหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลแทนเงินสดมากขึ้น
จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ล่าสุด ณ เดือน ก.ย. 65 การใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 400 รายการต่อคนต่อปี จากปี 2564 อยู่ที่ 312 รายการต่อคนต่อปี และปี 2563 อยู่ที่ 202 รายการต่อคนต่อปี
โดยช่องทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Internet & Mobile Banking มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 133 ล้านบัญชี มีปริมาณธุรกรรม 2,139 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 48.6% มูลค่ารวม 8.43 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีธุรกรรมที่เติบโตสูงคือ บริการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Wallet ซึ่งเป็นการชำระเงินของคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ชอบความสะดวก รวดเร็ว ทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์บนมือถือ โดยมีจำนวนผู้ใช้งานถึง 122.6 ล้านบัญชี ปริมาณธุรกรรม 302 ล้านรายการต่อเดือน เพิ่มขึ้น 38.5% มูลค่ารวม 5.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสดอย่างยั่งยืน ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จึงพัฒนา เป๋าตังเปย์ หรือ Paotang Pay ให้เป็นซุปเปอร์วอลเล็ตของคนไทย เพิ่มศักยภาพดิจิทัลเพย์เมนต์แอปฯ เป๋าตัง ให้ครบวงจรมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้งานกว่า 5 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2566
ด้านนางประราลี รัตน์ประสาทพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด ผู้พัฒนาแอปฯ เป๋าตัง กล่าวว่า ทิศทางการชำระเงินในอนาคตมุ่งสู่ Digital Payment อย่างชัดเจน จากรายงาน Global Payments ของ World Pay ชี้ว่า ปัจจัยสนับสนุนคือ 1. ความนิยมซุปเปอร์แอป หรือแอปฯ ที่รวมฟังก์ชันต่างๆ เข้าด้วยกัน เพราะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การใช้จ่ายแบบครบวงจรจากแพลตฟอร์มเดียว
2. ผู้บริโภคชอบการชำระเงินที่มีความคล่องตัว ใช้งานง่าย และรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด 3. ผู้ให้บริการ e-Commerce ชั้นนำ ต่างเปิดรับการชำระเงินด้วยวอลเล็ต รวมถึงเปิดวอลเล็ตของตัวเอง เพิ่มช่องทางการรับชำระค่าสินค้าและบริการให้ผู้บริโภค 4. มีช่องทางการเติมเงินเข้าวอลเล็ตที่หลากหลายขึ้น ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีธนาคาร เป็นต้น 5. การชำระเงินแบบไร้สัมผัส มีการเร่งตัวขึ้น โดยผู้บริโภคเริ่มใช้เงินสดน้อยลงและใช้วอลเล็ตมากขึ้น
จากทิศทางดังกล่าว บริษัทจึงพัฒนา เป๋าตังเปย์ ให้เป็นบริการอีกขั้นของการชำระเงินในรูปแบบซุปเปอร์วอลเล็ตบนแอปฯ เป๋าตัง ที่ผสานความสามารถของ Bank App และ e-Wallet เข้าด้วยกันให้บริการแบบ Open Loop เป็นวอลเล็ตแรก โดยใช้ QR พร้อมเพย์ เป็นตัวกลาง ทำให้สามารถโอนจ่าย ได้ทุกธนาคาร เปิดกว้างทุกการใช้จ่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายทุกร้านค้าได้อย่างอิสระ ไม่ต้องสมัครหลายใบ หรือเปิด-ปิดหลายแอปฯ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์
ทั้งนี้ เรามุ่งขยายฐานผู้ใช้งานกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยเริ่มต้นทำงานที่มีเพียง 30% บนแอปฯ เป๋าตังเป็นหลัก และเพื่อให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง เป๋าตังเปย์ จึงถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมคนรุ่นใหม่ INFINITAS NEXT GEN TEAM ภายใต้แนวคิด เปย์ไปมีแต่ได้
โดยครอบคลุมทั้งบริการโอนเงิน เติมเงิน สแกนจ่ายผ่านคิวอาร์พร้อมเพย์ได้ทุกธนาคาร และทุกร้านค้าทั่วไทย รวมถึงใช้ชำระบิลค่าน้ำไฟโทรศัพท์ บัตรเครดิต ประกัน หรือค่าธรรมเนียมหน่วยงานภาครัฐ มาพร้อมสิทธิประโยชน์และภารกิจสนุกๆ เพื่อพิชิตคูปองส่วนลดมากมาย
นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้ทุกร้านทั่วไทยอย่างแท้จริง ยังได้เปิดตัว บัตรเพลย์ บัตรที่เชื่อมกับเป๋าตังเปย์ ผสานการใช้งานออนไลน์-ออฟไลน์ ใช้ชำระค่าโดยสารระบบขนส่งมวลชน แบบ Contactless แตะจ่ายได้ทั้งรถ ราง และทางด่วน ใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ และรูดจ่ายผ่านเครื่อง EDC Payment ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการออกบัตร เมื่อออกบัตรภายในวันที่ 31 มกราคม 2566